ประวัติ อาจารย์หนู กันภัย
เมื่อเอ่ยถึง
อาจารย์หนู กันภัย คงไม่มีใครบอกว่าไม่รู้จัก
เพราะในวงการสักยันต์ของประเทศไทยทุกวันนี้ อ.หนู แห่งสำนักสักยันต์ จ.ปทุมธานี
ถือว่าเป็นต้นแบบลายสักยันต์ไทย นับได้ว่าเป็นผู้ฟื้นฟูพลิกผันลายสักยันต์ไทยที่เงียบหายไปจากความต้องการให้กลับโด่งดังเป็นที่ต้องการเป็นที่รู้จักทั้งในประเทศและต่างประเทศ
เจ้าของฉายา “มือสักเข็มทอง” ที่โด่งดังไปทั่วโลก
อาจารย์หนู กันภัย เป็นเกจิอาจารย์ที่เรืองวิทยาคม มีเกียรติคุณชื่อเสียงปรากฏนับว่าหาได้ยากมากในยุคนี้
แต่ตรงกันข้ามลักษณะอันมักน้อยและถ่อมตนเองของท่าน ในลักษณะเป็นอาจารย์ธรรมดา
ผู้ใดจะเข้าพบหาก็สะดวก เป็นอาจารย์ที่เรืองด้วยวิทยาคุณ
การปลุกเสกก็เข้มขลังจนเป็นที่เลื่องลือ
ท่านผู้อ่านจะเชื่อหรือไม่ก็ตามแต่เห็นจะมีผู้รู้ผู้เห็นความขลังของ อ.หนู
ประจักษ์แก่ตาและแก่ตนเองแล้วเล่ากันต่อๆ ไป จนเป็นที่ประจักษ์แก่หูเป็นอันมาก
ปรากฏว่าทั้งชาวบ้าน ประชาชน
ดาราและข้าราชการทั้งทหารและตำรวจทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ต่างพากันมามอบตัวเป็นศิษย์ของท่านอาจารย์จนมากมาย บ้างก็ขอให้ท่านรดน้ำมนต์
บ้างก็สักยันต์ บางคนก็ขอเครื่องรางของขลังจากอาจารย์และที่ดังแพร่หลายที่สุดก็คือ
ลายสักยันต์ห้าแถวหนุนดวง และจิ้งจกเก้าคู่
ที่มีความเข้มขลังเป็นอย่างมากในด้านโชคลาภ ความร่ำรวย
ที่ได้มาเหนือความคาดหมายเช่นศิษย์ของท่านคนหนึ่ง ก่อนจะเดินทางไปต่างประเทศได้มาสักเสือเหลียวหลังและจิ้งจกกับท่าน
อ.หนู และได้เดินทางไปสนามบินยังไม่ได้ทันจะได้ขึ้นเครื่อง
ได้มีชาวต่างชาติเข้ามาพูดคุยด้วย ฉับพลันนั้นได้บังเกิดหลงรักหลงใหล
และได้อยู่ด้วยกันจนถึงปัจจุบันนี้เป็นสามีภรรยากันและได้ซื้อบ้านราคาเป็นเงินถึง 100
ล้านบาทให้ นี้เป็นตัวอย่างที่เกิดขึ้น
ยังมีเรื่องราวของบุคคลอื่นอีกมากมายที่ประสบเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตใหม่ที่พลิกกลับขึ้นมาเหมือนปาฏิหาริย์
พลังของการสักยันต์พุทธาคมและพลังจิตของครูบาอาจารย์นั้นๆ
ก่อให้เกิดพลังปาฏิหาริย์และมหัศจรรย์เหนือธรรมชาติ
ซึ่งบางอย่างทางวิทยาศาสตร์ไม่สามารถพิสูจน์ได้ในโลกแห่งความเป็นจริง ซึ่งครูบาอาจารย์ผู้ถ่ายทอดเสกเป่าอักขระเลขยันต์ตามร่างกาย
ด้วยคาถาวิชาที่ร่ำเรียนมาด้วยความบริสุทธิ์ใจผู้ที่ได้รับรับด้วยความศรัทธาความเชื่อมั่น ก็สามารถก่อให้เกิดพลังปาฏิหาริย์ได้เช่นกัน
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพลังจิตของครูบาอาจารย์นั้นเป็นที่สำคัญ
ไม่ใช่ว่าทุกคนจะทำได้หมด ทำแล้วจะต้องเกิดพลังน้อยคนที่จะทำได้
แต่เมื่อเกิดอิทธิมหาพลังเข้มขลังของพุทธาคมก่อให้เกิดให้สิ่งที่เป็นปาฏิหาริย์แล้ว
ก็ขึ้นอยู่กับบุคคลที่นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์กับตัวเองครอบครัวและบ้านเมืองขนาดไหน
ไม่ว่าจะเป็นคงกระพันชาตรี เมตตามหาบารมี มหาเสน่ห์ เป็นต้น
ปัจจุบันในการสักยันต์ไม่มีใครไม่รู้จักอาจารย์หนู กันภัย
ผู้สร้างชื่อเสียงให้กับระดับประเทศและระดับโลกมาแล้ว
ลูกศิษย์ลูกหามีมากมายทั้งคนไทยและชาวต่างชาติเยอะแยะมากมายและที่สำคัญหลากหลายสาขาอาชีพ
ในอดีตมีเพียงแค่กลุ่มคนแต่ในปัจจุบันทุกชั้น วรรณะ สาขาอาชีพ
ทั้งในสายราชการ ผู้บริหารระดับสูง เจ้าของกิจการ เหล่าดารา ศิลปิน
ต่างก็เป็นที่ยอมรับและเป็นศิษย์มากมาย
ลูกศิษย์ลูกหาทุกคนต่างให้ความเคารพในตัวท่านอาจารย์หนูเป็นอย่างยิ่ง
เพราะทุกคนที่เป็นศิษย์ต่างก็มีประสบการณ์กับการสักยันต์มาแล้วแทบทั้งสิ้น
บางคนเฉียดตายก็หลายครั้ง ร่ำรวยก็มาก เมตตามหานิยมก็เป็นที่ยอมรับ
ส่วนมหาเสน่ห์ไม่ต้องพูดถึงที่สุดจริงๆ ลูกศิษย์ลูกหาของท่านอาจารย์หนู กันภัย
ต่างก็ร่ำลือกันต่างๆ นาๆ ทั้งในประเทศและนอกประเทศให้เป็นที่ยอมรับ
ตำนานการสักยันต์ของเมืองไทยให้ทั่วโลกรู้จัก ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นการยากมากที่จะทำให้ชาวต่างชาติยอมรับ
และหันเข้ามาเคารพศรัทธากราบไหว้พระพุทธศาสนา ซึ่งชาวต่างชาติหลายชนเผ่าหลากหลายศาสนา
ความเชื่อของแต่ละที่ไม่เหมือนกัน
บางทีไม่เห็นหรือไม่เจออะไรกับตัวเองไม่เชื่อไม่ให้ความเคารพแน่นอน
อาจารย์หนูท่านสร้างจุดนี้มาเป็นเวลานับสิบปี
เพื่อเผยแพร่พระพุทธศาสนาให้เป็นที่ยอมรับและประจักษ์กันทั่ว
ทั้งในเอเชียและยุโรปต่างยอมรับท่านอาจารย์หนู
กันภัย ให้เป็นนัมเบอร์วันในการสักยันต์ของคนไทย ด้วยความเชื่อของพลังคาถาที่เป็นที่ยอมรับกันทั่วโลกปัจจุบันเหล่าดาราศิลปินคนไทยทุกชนชั้น
ทั้งเก่าและใหม่ต่างก็มาเป็นศิษย์ของท่านอาจารย์หนู กันภัย กันทั้งวงการด้วยความเชื่อและความศรัทธา เหล่าดารา ศิลปิน ต่างก็ประสบความสำเร็จจนเป็นที่เล่าขานกันในหมู่นักแสดง
ดารา ศิลปิน จนไปถึงดารา ฮอลลีวู้ด ก็ต่างทยอยกันมาสักทั้งที่เป็นข่าว
และไม่เป็นข่าวอีกมาก
คณาจารย์สายฆราวาส อย่างเช่น อาจารชุม ไชยคีรี
อาจารย์ฟ้อน ดีสว่าง ต่างก็เป็นที่รู้จักกันในสายวิชาอาคม ซึ่งก็เป็นที่ยอมรับในกลุ่มคนบางกลุ่มไม่ไกลหรือโดดเด่นในโลกปัจจุบัน
ซึ่งแตกต่างกับท่านอาจารย์หนู กันภัย
ที่เป็นที่ยอมรับกันทั่วโลกทุกสาขาอาชีพ อาจารย์หนูท่านย้ำเสมอๆ
ว่าทองย่อมเป็นทองไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็จะไม่แปรสภาพเป็นอื่นแน่ หรืออาจจะเป็นเพราะโลกไซเบอร์ที่การสื่อสารไม่มีขีดจำกัดวิทยาศาสตร์เข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันของคน
แต่เราลองคิดดูอีกที โลกแห่งศาสตร์ความลึกลับศาสตร์แห่งคาถาจะวิ่งสวนทางกับโลกของไซเบอร์เสมอ
ซึ่งถ้าไม่ดีจริงวิชาอาคมเหล่านี้คงสูญหายไปแล้ว ซึ่งปัจจุบันนี้ก็เป็นที่ประจักษ์ให้คนทั่วโลกได้รับรู้ในศาสตร์ไสยเวทย์คาถาอาคมของการสักยันต์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น